He leaned forward and looked into his eyes"I can see it hurts you to hear all of this, Monsieur Toulose, but I had to show you.".. She cannot compile a single usable sentence. He just rambles about the most stupid things. listen to him. "But Jimmy, there's that, the problem - I mean, look,I a'm for it. But look, we have people coming into our country that are looking to do tremendous harm. You look at the two, look at Paris. I mean this people, they did not come from Sweden, O. k. take a looked at what happen in Paris. We have a real problem. There is a tremendous celebrates. Looked at what happen last week in Mulin Rouge...Changing the word 'wand' with another word.. one that is a phallic object from the ... withing that was so mindstrom and burglar SCHEME ... is slightly spied to be exacturated....back. So I went and did a little check up. And I was right. "Crooked spine".
ตั๋วรถไฟที่ได้จะเป็นตั๋วใบเล็ก บอกแค่วันที่ ต้นทาง Padang Besar ปลายทาง Butterworth และเวลาซื้อตั๋วเท่านั้น เวลารถออกให้สังเกตหน้าจอบอกเวลา คำว่า B’WORTH ว่าอยู่ที่ชานชาลาไหน โดยปกติจะจอดบนชานชาลาที่ 2
ขอเตือนล่วงหน้าว่า ตั๋วรถไฟที่ซื้อมาเก็บรักษาไว้ให้ดี จนกว่าจะถึงปลายทาง เพราะเมื่อถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ จะต้องคืนตั๋วให้เจ้าหน้าที่ หากไม่มีตั๋วต้องเสียค่าปรับอีก 30 ริงกิต (230.50 บาท)
ระหว่งรอเวลาก็เดินไปที่ร้านค้าด้านในสถานี จะมีของขายที่จำเป็น เจอปลั๊กไฟแบบสามขาแบน มีขายอันละ 6.50 ริงกิต (เกือบ 50 บาท) ส่วนซิมการ์ดมาเลเซีย มีขายเฉพาะเครือข่าย U Mobile ราคา 30 ริงกิต (230 บาทเศษ) ซึ่งถือว่าแพง
แต่สัญญาณมือถือจากไทย ทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟเอช เข้าถึงสถานีปาดังเบซาร์ได้ แถมสัญญาณแรงกว่าฝั่งมาเลเซียเสียอีก ยังพอมีเวลาท่องเน็ตและทำธุระส่วนตัว เช่น จองห้องพักโรงแรม ก่อนที่จะเปลี่ยนซิมการ์ดระหว่างอยู่บนรถไฟ
รถไฟระหว่างปาดังเบซาร์ไปบัตเตอร์เวิร์ธ จะเป็นรถไฟชานเมือง (Commuter) ตัวรถเป็นรถไฟฟ้าปรับอากาศ ทำความเร็ว 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้บริการวันละ 14 เที่ยว เปิดให้บริการเมื่อปี 2557
ตัวรถไฟฟ้าจะเป็นรถไฟฟ้าชุด EMU Class 92 รับไฟฟ้าจากสายส่งเหนือหัว คล้ายแอร์พอร์ตลิงก์บ้านเรา แต่วิ่งบนรางระดับดิน ตลอดเส้นทางเป็นรถไฟทางคู่ มีรั้วรอบขอบชิด ทำความเร็วได้เต็มที่ ไม่มีรถหรือคนตัดผ่าน
แม้รถไฟฟ้าจะดูเก่าไปบ้าง หลังเปิดให้บริการมาแล้ว 5 ปี แถมมีมือดีปากระจกภายนอกจนแตก ยังไม่ได้เปลี่ยน แต่ภายในขบวนรถยังสะอาด แอร์เย็นสบาย ที่สำคัญเสียงแจ้งเตือนให้ระวังขณะก้าวออกจากรถ ยังมีดนตรีประกอบอีกด้วย
รถไฟออกจากสถานีปาดังเบซาร์ มุ่งหน้าสู่สถานีบัตเตอร์เวิร์ธ ระยะทางราว 170 กิโลเมตร แบ่งเป็นช่วง ปาดังเบซาร์-บูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) 157 กิโลเมตร บูกิตเมอร์ตาจัม-บัตเตอร์เวิร์ธ 12 กิโลเมตร
แวะรับ-ส่งผู้โดยสาร 11 สถานี สถานีสำคัญ ได้แก่ สถานีอลอร์สตาร์ (Alore Setar) รัฐเคดาห์ (Kedah) บ้านเกิดนายกฯ มหาธีร์ มูฮัมหมัด มีหอชมเมืองอลอร์สตาร์ ทาวเวอร์ หรือจะเป็นสถานีซูไงเปอตานี (Sungai Petani) ที่เป็นเมืองใหญ่
เกือบ 2 ชั่วโมงเราก็มาถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ เห็นสะพานและท่าเรือล้อมรอบ ลงจากรถไฟขึ้นไปด้านบนชานชาลา คืนตั๋วให้พนักงาน แล้วเดินลงมาด้านหน้าสถานี จะมีบรรดาโชเฟอร์แท็กซี่ยืนรออยู่ พยายามชักชวนให้ขึ้นแท็กซี่
แต่มีคนบอกว่า ให้เดินผ่านไปเลย เพราะท่าเรือเฟอร์รี่อยู่ไม่ไกล เดินไปตามลูกศรเท่านั้น
บริษัททัวร์ต่างๆ แนะนำให้นักท่องเที่ยวอย่าหลงเชื่อรถแท็กซี่ ที่จอดอยู่ตามสถานีรถไฟ สถานีขนส่งรถปรับอากาศ หรือตามสนามบิน เพราะแท็กซี่มาเลเซียมักจะคิดค่าโดยสารเกินราคา และแพงเกินจริง
เมื่อเดินไปตามทางเดินสักพัก จะเข้าสู่อาคาร “ปีนังเซ็นตรัล” (Penang Sentral) ศูนย์กลางคมนาคมขนส่ง ชั้นล่างจะเป็นชานชาลารถทัวร์ ส่วนชั้น 2 จะเป็นช่องขายตั๋วโดยสาร ร้านค้า ร้านอาหาร และทางเชื่อมไปยังท่าเรือเฟอร์รี่
เรือเฟอร์รี่ข้ามไปปีนังมีชื่อว่า “แรพิดเฟอร์รี่” (Rapid Ferry) ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วโดยสารคนละ 1.20 ริงกิต (ประมาณ 9.25 บาท) เจ้าหน้าที่จะให้สลิปที่มีคิวอาร์โค้ด ให้นำไปสแกนเพื่อเปิดประตูคล้ายรถไฟฟ้า แล้วนั่งรอเวลาเปิดให้ขึ้นเรือ
ใช้เวลานั่งเรือเฟอร์รี่จากฝั่งบัตเตอร์เวิร์ธไปยังปีนัง ประมาณ 15 นาที เรือจะจอดที่ท่าเรือบริเวณจอร์จ ทาวน์ (George Town) ย่านเมืองเก่าของเกาะปีนัง ส่วนขากลับไม่ต้องจ่ายเงิน เดินขึ้นไปรอเรือเฟอร์รี่มารับกลับได้เลย
ระหว่างนั่งเรือเฟอร์รี่ มองไปทางทิศใต้ ไกลสุดลูกหูลูกตาจะเห็น “สะพานปีนัง” (Penang Bridge) ยาวถึง 8.4 กิโลเมตร มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของมาเลเซีย และอันดับ 5 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองปีนังไปแล้ว
ในที่สุด ก็ใช้เวลาข้ามวันข้ามคืน มาถึงเกาะปีนัง มาเลเซียเสียที
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
หมายเหตุ : รถตู้สายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ค่าโดยสารคนละ 50 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ เที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากหาดใหญ่ 18.00 น. ออกจากปาดังเบซาร์ 17.30 น.
รถไฟชานเมือง KTM Komuter สายปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวิร์ธ ให้บริการรวม 14 เที่ยวต่อวัน เที่ยวแรก 05.25 น. (หรือ 04.25 น. ตามเวลาประเทศไทย) เที่ยวสุดท้าย 21.25 น. (หรือ 20.25 น. ตามเวลาประเทศไทย)
ถ้านั่งรถตู้เที่ยวแรก 06.00 น. จะถึงหน้าด่านปาดังเบซาร์ เวลาประมาณ 07.00 น. หากซื้อตั๋วทันจะได้นั่งรถไฟเที่ยว 08.25 น. (ตามเวลามาเลเซีย) ถึงปลายทางบัตเตอร์เวิร์ธ เวลาประมาณ 10.16 น.
ส่วนช่วงเย็น แนะนำให้ออกจากหาดใหญ่ก่อน 17.00 น. ถึงปาดังเบซาร์เวลาประมาณ 18.00 น. จะได้นั่งรถไฟเที่ยว 19.25 น. (ตามเวลามาเลเซีย) ถึงปลายทางบัตเตอร์เวิร์ธ เวลาประมาณ 21.16 น.
เรือเฟอร์รี่ข้ามไปปีนัง เที่ยวแรกออกจากฝั่งบัตเตอร์เวิร์ธ 05.20 น. เที่ยวสุดท้าย 00.10 น. ส่วนฝั่งเกาะปีนัง เที่ยวแรก 05.40 น. เที่ยวสุดท้าย 00.40 น. ค่าโดยสารจ่ายเฉพาะฝั่งบัตเตอร์เวิร์ธ คนละ 1.20 ริงกิต (ประมาณ 9.25 บาท)
เที่ยวกลับ ถ้านั่งรถไฟจากบัตเตอร์เวิร์ธ เที่ยว 14.25 น. ถึงปาดังเบซาร์ 16.16 น. จะทันขึ้นรถไฟดีเซลรางไปหาดใหญ่ โดยซื้อตั๋วรถไฟที่ชั้นชานชาลา เลยด่าน ตม.ในสถานีรถไฟ ค่าโดยสารจ่ายเป็นเงินไทย 50 บาท หรือเงินมาเลเซีย 7 ริงกิตก็ได้
จำไว้ว่า เวลาในมาเลเซียจะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง